พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ลงนามในระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการปฏิบัติตนของข้าราชการตำรวจเมื่อแต่งเครื่องแบบ พ.ศ.2561 เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2561 โดยในระเบียบดังกล่าวระบุว่า
เครื่องแบบตำรวจเป็นเครื่องแสดงถึงสัญลักษณ์ของผู้แต่งว่าเป็นข้าราชการผู้ทรงเกียรติเหล่าหนึ่ง ที่มีภารกิจเป็นผู้รักษากฎหมายและบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ประชาชนให้มีความสงบและเกิดประโยชน์สุข ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความประสงค์ให้ข้าราชการตำรวจในสังกัดทุกคนมีภาพลักษณ์ที่ดี เหมาะสมกับการเป็นผู้ที่อยู่ในระเบียบวินัยเมื่อแต่งเครื่องแบบ ดังนั้นเพื่อแสดงถึงความมีระเบียบวินัยของข้าราชการตำรวจ อันจะก่อให้เกิดความศรัทธาเลื่อมใสแก่ประชาชน
ในระเบียบดังกล่าว ระบุถึงการแต่งกายของข้าราชการตำรวจชายทุกคน โดยเมื่อแต่งเครื่องแบบ ให้ตัดผมสั้น ด้านข้างขาวทั้ง 3 ด้าน ด้านบนความยาวไม่เกิน 3 เซนติเมตร ส่วนข้าราชการตำรวจชายที่ปฏิบัติหน้าที่การสืบสวน หรือการข่าวหรือป้องกันปราบปรามยาเสพติดเมื่อไม่แต่งเครื่องแบบ ให้ไว้ผมรองทรงสูง ขณะที่ข้าราชการตำรวจหญิง เมื่อแต่งเครื่องแบบนั้นต้องไม่ปล่อยให้ผมยาวประบ่า หรือปรกบ่าจนปิดอินทรธนู หากไว้ผมยาวต้องขมวดปลายผมให้เรียบร้อย ถ้ามีความจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ในการขมวดปลายผมให้ใช้สีดำเท่านั้น และหากต้องใช้อุปกรณ์ตกแต่งทรงผม ควรใช้กิ๊บ หรือริบบิ้นขนาดเล็กสีดำเพียงสีเดียว ห้ามไว้ผมเปีย ผมแกละ ผมทรงหางม้า ผมม้าปรกหน้า หรือทรงผมอื่นที่ไม่เหมาะสม และห้ามข้าราชการตำรวจไม่ว่าชายหรือหญิงทำสีผม หากจำเป็นต้องทำสีผมให้ทำเป็นสีดำได้เพียงสีเดียว และห้ามใช้ครีมแต่งผม หรือสารอื่นใดตกแต่งทรงผม ให้มองดูแล้วผมเปียก ด้านตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่สืบสวนหาข่าว หรือการข่าวในการถวายความปลอดภัยหรือการอารักขาบุคคลสำคัญ ให้แต่งกายแบบสากลนิยม ชุดสูทหรือเสื้อทรงซาฟารี และติดเครื่องหมายบอกฝ่าย
ในระเบียบยังระบุด้วยว่า ข้าราชการตำรวจทุกคนจะต้องประพฤติตนให้อยู่ในระเบียบวินัยโดยเคร่งครัด เมื่อแต่งเครื่องแบบต้องแต่งกายให้เรียบร้อย หลีกเลี่ยงการแสดงกิริยาท่าทางที่ไม่เหมาะสมในที่สาธารณะเช่น ยืดอก ล้วงกระเป๋า ยืนพิง เท้าแขน เท้าเอว นั่งไขว้ห้างเป็นต้น รวมทั้งต้องไม่แสดงกิริยาวาจาใดๆ ลักษณะหยาบคาย ดูหมิ่น หรือเยียดหยามประชาชน และเครื่องแบบตำรวจที่ใช้สีกากี ต้องเป็นสีกากีพระราชทาน (สนว.01) ท้ายระเบียบระบุว่า ให้สำนักงานจเรตำรวจ หรือผู้บังคับบัญชาแล้วแต่กรณี ตรวจสอบ กวดขันดูแลการปฏิบัติระเบียบนี้ และรายงานผลการตรวจสอบให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติทราบ ผ่านกองวินัย ตามห้วงเวลาที่กำหนด